วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Backpack in HongKong >> เที่ยวเองสุดมันส์กับ4 วัน 3 คืน ในฮ่องกง ปี 57

สวัสดีค่ะ เมื่อปี 57 เราได้มีโอกาสไปเที่ยวฮ่องกงกับเพื่อนแบบ Backpack มา ซึ่งประสบการณ์ครั้งนี้ถือเป็นครั้งเเรกสำหรับเราเเละเพื่อนเลยในการเที่ยวแบบ Backpack วันนี้เราก็อยากจะมาแชร์เรื่องราวต่างๆให้อ่านกันค่ะ ตั้งเเต่เรื่องจองตั๋วเครื่องบิน, โรงแรม และยาวไปจนถึงเรื่องกิน เรื่องเที่ยวเลย เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ


เรื่องแรกเลย เราได้ราคาโปรตั๋วเครื่องบินของ Emirates ในราคา 6,645 บาท ไป-กลับ กระเป๋าโหลดใต้เครื่องขาละ 30 กิโล +อาหารบนเครื่อง และที่สำคัญได้นั่ง A380 ด้วยค่ะ ขอบอกว่าเด็ดมากกก ฟินมากกกก ลำใหญ่เว่อร์


มีหนังหลากหลายแนวให้เลือกดูระหว่างการเดินทางด้วยนะคะ เราสามารถจะเลือกดูหนัง,ฟังเพลง,เล่นเกมส์หรือดูเครื่องบินตอนบินก็ได้ค่ะ เเล้วก็มีช่องเสียบยูเอสบีให้ด้วยนะคะ สามารถชาร์ทแบทไอโฟนได้ด้วย ชอบจุงงง


ภาพหน้าตาอาหารขาไปค่ะ เป็นมัสมั่นไก่ ชอบอกว่าอร่อยสุดๆ



และแล้วเราก็มาถึงฮ่องกงแล้วค่าาาาา สำหรับใครที่มาเองและไม่เคยมา ไม่ต้องกลัวหลงเลยค่ะ เดินตามๆคนที่ลงเครื่องมา แล้วจะรอดคะ 555555 

ลงเครื่องมาแล้วต้องนั่งรถไฟเพื่อเข้าไปเอากระเป๋าเดินทางและตรวจตรงตม.นะคะ


เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็มาซื้อซิมกันค่ะ สามารถซื้อได้ที่ 7-11 ในสนามบินเลยนะคะ ราคา98$ จะมี 3 แพ็คเกจให้เราเลือกใช้ แนะนำแบบ 7 วัน คุ้มสุดเเล้วค่ะ


วิธีการเปิดใช้งานนะคะ หลังจากใส่ซิมแล้ว เราแคปมาละเอียดพอสมควรเพราะตอนแรกที่เราทำ เราคิดว่าทำได้เเล้ว แต่สรุปไม่ใช่ โดนหักเงินในซิมไปเยอะเลยค่ะ

กด *131# แล้วจะขึ้นมาเป็นหน้านี้นะคะ






เป็นอันเรียบร้อยค่ะ ใช้งานได้เลย ขอบอกว่า 3G ที่ฮ่องกงแรงมากกกกกก ปลื้มสุดดดด


อย่าลืมซื้อบัตร AE และ Octopus กันด้วยนะค่าา ซื้อที่เคาน์เตอร์นี้ที่สนามบินน้าาา มีบัตรOctopusละสะดวกสบายสุดๆจริงๆค่ะ


2 คืนแรก เราเลือกนอนที่ Mei Mei Motel ย่านMongkok นะคะ การเดินทางก็ไม่ยากเท่าไหร่ ใช้MTRอย่างเดียวเลย

1. ขึ้น AE เลือกลงที่ Tsing Yi ราคา 60$ 
2. ขึ้น MTR ต่อที่ Tsing Yi (สายTung Chang Line) แล้วก็ลงป้ายถัดไปเลยคะ ป้าย Lai King (สายTsuen Wan Line) ละนั่งต่อยาวลง Mongkok ได้เลยค่า 


ออกประตู D2 นะคะ ออกมาแล้วเดินไปทางซ้าย ฝั่งตรงข้ามตามทางเราจะเห็น Bossini เดินข้ามถนนเล็ก 2 ครั้งนะคะ ครั้งที่3 จะเห็น7-11 ไม่ต้องข้าม ให้เลี้ยวซ้ายได้เลยค่ะ ตรงหัวมุมจะเป็นร้านขายของกิน พวกปลาหมึก ลูกชิ้นต่างๆ พอเข้าตึกไป Mei Mei Motel จะอยู่ชั้น 3 ออกลิฟท์มาเจอเลยค่ะ


สำหรับ Mei Mei Motel ห้องสะอาดนะคะ เตียงนุ่มนอนสบาย แต่ข้อเสียคือห้องเล็กมากกกกแบบบมากกที่สุด ห้องน้ำก็เล็กมากๆ แต่ถ้าไม่คิดอะไรมาก ก็นอนที่นี่ได้ค่ะ กระเป๋าเดินทางทั้งหมด ต้องยัดใส่ไว้ใต้เตียงนะคะ เพราะไม่มีพื้นที่ให้วาง อย่างเราไปกับเพื่อน พอคนใดคนนึงจะเอากระเป๋าเดินทางออกมาคือคนที่เหลือนี่ต้องโดดขึ้นเตียงให้หมดนะ ไม่งั้นไม่มีพื้นที่ให้ยืนค่ะ 55555 ที่นี่มีปลั๊กแปลงให้นะคะ ไม่ต้องกลัวว่าจะชาร์ทแบทกล้องหรือมือถือไม่ได้ เค้าจะมีให้ 2 ปลั๊กค่ะ มีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ เวลาเปิดคือต้องรอ 5 นาที ก่อนนะคะถึงจะใช้งานได้ แต่โดยรวมสำหรับเราก็โอเคนะ สะดวกใกล้แหล่ง Shopping เดินทางไปมาง่ายดี


เก็บกระเป๋าเสร็จแล้วก็ไปเที่ยวกันเล้ยย เราไปถึงก็ค่ำๆเเล้วนะคะ ที่ฮ่องกงเวลาเร็วกว่าเรา 1 ชม. เราเลยแค่เดินเล่น+หาของกินแถวๆที่พัก

เริ่มกันที่ 7-11 55555555 เราเป็นคนชอบของเล่น พอเห็นตู้กาชาปองนี่ก็รีบพาตัวเองไปกดทันที สามารถแลกเหรียญได้ที่ 7-11 เลยนะคะ 


ที่นี่ของกินของใช้น่ารักและแปลกกว่าที่บ้านเราเยอะมากค่ะ





มาต่อกันที่ร้าน Wellcome จะเป็นร้านที่คล้ายๆกับ 7-11 แต่ของเยอะกว่ามากๆ มีสารพัดสิ่งให้เลือกสรร เราชอบมาซื้อของที่นี่มากกว่า 7-11นะคะ เพราะนอกจากจะของเยอะแล้ว ยังมีราคาโปรโมชั่นอีกเพียบด้วยยย เราชอบบบบ



มาม่าคิตตี้ ราคา 3.9$ แต่ถ้าซื้อครบ4 ลดราคาเหลือ 12$



อันนี้หน่อไม้ดองไต้หวัน เพื่อนเราฝากซื้อ นางอยากลอง5555 มีทั้งแบบขวดและแบบซอง
*** ขอเน้นว่าให้เลือกMade in Taiwan นะค่ะ ***




แล้วเราก็ไปกินข้าวกันที่ร้าน Eat Together *ลืมถ่ายหน้าร้านมา แหะแหะ* ร้านนี้จะขายก๋วยเตี๋ยวตามสไตล์ฮ่องกงนะคะ คือเราสามารถเลือกเส้น ซุป และท้อปปิ้งได้ค่ะ ราคาก็จะตามที่เราสั่งเลย


อันนี้เพื่อนเราลองของดี เลือกเส้น Thick มา เส้นใหญ่อลังการยิ่งกว่าเส้นใหญ่บ้านเราอีก 555555 เส้นที่นี่เค้าทำเองนะคะ  



เดินๆไปเราเจอร้านซูชิที่ถูกและอร่อยมากค่ะ *ลืมถ่ายหน้าร้านมาอีกเช่นเคย จำชื่อร้านไม่ได้ด้วยง่าา ขออภัยด้วยค่า*



ส่วนใครที่ชอบร้านเค้กแนวน่ารักๆแบ๊วๆ เราขอแนะนำร้าน Maxim นะค่า มีแทบจะทุกสถานีรถไฟฟ้า MTR เลยค่ะ


ช่วงที่เราไปยังมีการชุมนุมอยู่นะคะ แต่ว่าไม่ต้องกังวลกันไปน้าา เพราะไม่มีอะไรเลย สงบ ปลอดภัย ที่นี่ตำรวจคุมเข้มตรงพื้นที่การชุมนุมกันเยอะมาก ที่สำคัญ พูดเลยนะว่าตำรวจที่นี่หน้าตาแซ่บลืมมากค่าาา 5555555





แล้วก็ขอแนะนำเรื่องการสูบบุหรี่ด้วยนะคะ เพราะเท่าที่รู้มาคือเค้าค่อนข้างที่จะเข้มงวดกับเรื่องนี้มาก

ใครสูบบุหรี่ก็มองหาเจ้าถังขยะสีส้มๆนี้ได้เลยค่ะ มีเยอะมาก แทบจะมีทุกหัวมุมถนนเลย เพราะคนฮ่องกงสูบบุหรี่กันเยอะมากๆนะคะ (รูปอาจจิสกปรกไปโหน่ยยน้าาา5555)




ต่อกันที่วันที่ 2  วันนี้พวกเราเลือกจะไปดิสนี่แลนด์เต็มวันเลยค่ะ 
*** ขอแนะนำสำหรับคนที่จะไป เราแนะนำให้ตื่นเช้ามากๆนะคะ สัก6-7 โมง ควรกินข้าวเช้าให้เสร็จภายใน8โมง แล้วออกเดินทางไปดิสนี่ 

การเดินทางไปดิสนี่จาก Mongkok ก็ไม่ยากอีกเช่นเคย โดยใช้บริการของ MTR นั่งจาก Mongkok ยาวเลยค่ะ

หน้าตาข้าวเช้าของเราในวันที่2คะ เราเลือกเป็นโจ๊กไก่(33$)+ปาท่องโก๋(9$)+โอวัลตินเย็น(9$) ที่ร้าน Aberdeen Fisball & Noodles รสชาต ให้ 7/10 สำหรับโจ๊กเราเฉยๆ ไก่นี่มาเป็นข้อ+ปีกเต็มๆ ไม่มีเนื้อที่ฉีกแล้วนะคะ กินยากมากเลย  แต่ปาท่องโก๋+โอวัลตินเย็น เริ่ดมากค่ะ ขอเน้นที่ปาท่องโก๋ ขอบอกว่าแซ่บมาก รสชาตกำลังดี ลงตัวสุดๆ


นั่งจาก Mongkok แล้วไปเปลี่ยนขบวนที่ Lai King จากนั้นก็ไปเปลี่ยนขบวนต่อที่ Sunny Bay เเล้วก็ลงที่สถานี Disney Resort ที่สถานีนี้ขบวนรถไฟจะเป็น Theme Disney แล้วนะคะ เหมือนเป็นการบิ้วอารมณ์ให้ตื่นเต้นเบาๆก่อนที่จะได้เข้าไป


และเเล้วเราก็ถึงดิสนี่แล้วววววว กรี้ดกร๊าดดดด



เข้ามาถึงปุ๊ปก็จะเจอ Main Street จะเป็นส่วนที่มีร้านขายของต่างๆนาๆนะคะ ส่วนเครื่องเล่นที่เราเล่นแล้วรู้สึกว่าสนุกสุดๆคือ Buzz Lightyear Astro Blasters จะให้เรานั่งเครื่องเล่นเเล้วยิงตามจุด ละก็จะได้แต้มคะแนนค่ะ สนุกมากกก 




ส่วนอาหารที่ดิสนี่ ขอบอกว่าแพงสุดๆ หูฉีกกเลยค่ะ อย่างเซทนี้ของเราราคาสนนอยู่ที่ 93$ ช็อคแผร่บบบบบ เรากะเพื่อนแอบหิวเบาๆในช่วงเที่ยง เลยตัดสินใจว่ากินรองท้องละกันน สั่งเซทเดียวกินกัน 4คน 5555555555 แต่อร่อยน้าาาา 



ช่วงเย็นประมาณ 5 โมงเย็นจะมีขบวนพาเรด


ช่วง1ทุ่ม จะมีขบวดพาเรดอีกรอบนะคะ เป็นแบบแสงสี เสียง ที่อลังการงานสร้างยิ่งกว่าเดิม ตื่นตาตื่นใจสุดๆเลยคะ พลาดไม่ได้นะค่าาา


ช่วง 2 ทุ่มครึ่ง จะมีการแสดงพลุนะคะ ตื่นตาตื่นใจยิ่งกว่าเดิม



มีการปล่อยหิมะเทียมลงมาปิดท้ายการแสดงด้วยย ฟินสุดๆไปเลยยยย


*** เราขอแนะนำการไปดูขบวนพาเรดและพลุนะคะ ควรจะไปจับจองที่นั่งก่อนการแสดงจะเริ่ม เพราะไม่งั้นจะได้ยืนหลังๆเลยค่ะ คนเยอะมว๊ากกกกกก แล้วก็หลังจากจบการแสดงทั้งหมด ภาพที่เราเห็นคือทุกคนรีบหันหลังกลับและรีบวิ่งไปที่ทางออกทันที มี 2 ทางคือ 1. รีบวิ่งออกไปทันที เพื่อที่จะได้ขึ้นรถไฟ 2. รอคนไปกันสักพักแล้วค่อยออก จะได้ไม่ต้องแย่งกัน   แต่สำหรับเรา เราเลือกแบบที่ 2 แต่คนก็ยังเยอะอยู่ดี แย่งกันขึ้นรถไฟอยู่ดี 55555555

*** แนะนำการไปดิสนี่อีกอย่างคือ ควรใส่รองเท้าผ้าใบดีดี สำหรับออกกำลังกายหรือสำหรับวิ่งเลยคะ ไม่งั้นจะปวดเท้ามากกกกกๆๆ ของเพื่อนเราใส่NBยังเอาไม่อยู่เบยยยย ส่วนเรานี่เรียบร้อยดี ถึงที่พักปุ๊บบ หาซื้อรองเท้าแตะทันที ถ้าใครที่เจ็บมากๆแล้วต้องการซื้อรองเท้าแตะ ไม่แนะนำให้ซื้อใน Ladies Market นะคะ เพราะเพงมากก คู่นึง50-70$ แนะนำให้เดินหาตามร้านตึกแถวต่างๆคะ มันจะมีร้านที่คล้าย20บาททุกอย่างของบ้านเรา ราคารองเท้าแตะจะถุกลงมาเยอะมากก 10-20$ ค่าา


*** แนะนำสำหรับคนที่สูบบุหรี่เหมือนเดิมค่ะ สำหรับที่ดิสนี่ เค้าจะมีจุดให้สูบบุหรี่นะคะ เท่าที่เราเห็นอยู่จะมีแค่2 จุดเองคะ 1. ตรง Main Street อยู่ข้างร้านอาหารนะคะ  2. ตรงทางเข้าโซนของ Toy Story ค่ะ Smoking Area จะอยู่ทางด้านขวามือ ตรงทางลาดชันก่อนเข้าโซนคะ




หลังกลับจากดิสนี่ เราแวะไปเก็บของที่ที่พักก่อน เพราะไปถล่มกันมาหนักหน่วงมากค่า55555 เก็บเสร็จแล้วก็หาไรกินค่ะ เราเลือกร้านย่าน Mongkok อีกเช่นเคย ร้านนี้ไม่มีชื่อร้านเป็นภาษาอังกฤษนะคะ ร้านตั้งอยู่ใกล้ๆMei Mei เลยค่ะ ถัดไปแค่ 2 ซอยเท่านั้น

ขอบอกว่าอร่อยมากก แทบจะเป็นมื้อแรกที่กินละรู้สึกว่าอร่อยแบบ ว้าว!!! ซัดเกลี้ยงค่ะ 

เกี๊ยวกุ้งลูกโต กุ้งแน่นสุดๆ ราคาอยู่ที่ 33$+โค้ก1ขวดเล็ก10$


เราไม่หยุดเรื่องกินกันแค่นี้ค่ะ ไหนๆก็มาต่างแดนแล้ว เราต้องลองทุกสิ่งเอฟวี่ติงจิงกะเบลค่ะ 
เราไปลองชิม Mc มา ไก่ก็รสชาตใกล้เคียงบ้านเราเลยนะคะ แต่สิ่งที่ไม่เหมือนคือความกรอบ บ้านเราจะกรอบมาก แต่ที่ฮ่องกงดูภายนอกเหมือนจะกรอบแต่จริงๆแล้วไม่กรอบเลยค่ะ ไม่ใช่เพราะทอดนานแล้วนะ แต่ของเค้าเป็นแบบนี้ 

อันนี้คือ Mc Wings 4ชิ้น 20$ 


หน้าตาซองซอส จะเป็นซองเล็กๆนะคะ



จะบอกว่ามีทริคเล็กๆน้อยๆในการประหยัดค่าของกิน คือกินเบอร์เกอร์ที่แม็คก็ได้ค่ะ ถูกมาก ราคาเท่าน้ำเปล่าเลยจ้า แต่ถ้าให้กินทุกมื้อหลายๆคนอาจจะเบื่อได้ นอกจากอยากจะประหยัดจิงๆ ละเอาเงินไปช้อป ก็ทนกินแม็คเอาหน่อยน้าา5555

หน้าตาMc Muffin with egg ค่าา ราคา9$  --- แป้งนี่แข็งมาเล้ยยย ฟันจิหัก แต่ว่าอร่อยค่า


ไม่หยุดแค่นี้ ต่อด้วยมาม่าของฮ่องกง อร่อยมากกก พูดเลยย หาซื้อได้ตาม 7-11 ซื้อ3 ลดเหลือ 21.9$ คุ้มอีกล้าาาา  ส่วนน้ำอันนี้คือน้ำแอปเปิ้ลนะคะ อร่อยอีกเช่นเคย ราคา10$ จ้า


ปิดจ้อบคืนนี้ด้วยร้านของทอดหน้าตึกค่ะ ตรงหัวมุม MeiMei จะมีร้านนี้ขายอยู่นะคะ ขอบอกว่าอร่อยมาก แนะนำปลาหมึกกับเบคอนพันไส้กรอกค่ะ แซ่บสุดใน3โลก




มาต่อกันวันที่ 3 ค่ะ วันนี้พวกเราย้ายที่พัก ไปพักย่าน Tsim Sha Tsui ค่ะ พักที่ Cosmic กันค่ะ (ลืมถ่ายรูปมางะ เพราะวันนั้นของเยอะมากๆเลยค่ะ ถึงที่พักใหม่ปุ๊ปก็เหวี่ยงของ ออกไปเที่ยวต่อทันที5555)
จะบอกว่าที่นี่ถ้าเทียบกับ MeiMei แล้ว ก็โอเคกว่านะคะ ห้องกว้างกว่าเยอะเลย แต่ถ้าถามว่าที่ไหนคึกคักกว่าก็จะเป็นย่าน Mongkok มากกว่าค่ะ
เห็นเจ้าของที่Cosmic บอกว่า ย่าน Mongkok จะเป็นย่านที่มีโสเภณีอยู่เยอะ น่ากลัว แต่สำหรับเรา เราเฉยๆนะคะ กลับชอบย่าน Mongkok เสียมากกว่าเพราะว่าใกล้แหล่งช้อปปิ้ง คนเดินกันตลอดเวลาด้วย คึกคักดีค่ะ

เริ่มด้วยที่อาหารเช้าค่ะ ขอบอกว่าร้านนี้โจ๊กอร่อยมากๆ และทุกคนในร้านอัธยาศัยดีหมด ค่อยข้างต่างจากร้านอื่นค่ะ

ร้านนี้ถ้าออกมาจาก MeiMei เดินไปตรง 7-11 ถักจาก7-11ไป 3 ร้าน คือร้านโจ๊กเลยค่ะ คนเยอะมว๊ากกเลยร้านนี้ แต่ขอคอนเฟิร์มอีกรอบว่ามันอร่อยสุดๆจริงๆ

แนะนำโจ๊กหมูนะคะ ทานคู่กับปาท่องโก๋+ผัดหมี่ ฟินสุดๆ  ร้านโจ๊กชื่อ Sea View Congee Shop จ้า



ภาพบรรยากาศที่ Tsim Sha Tsui ค่ะ ที่นี่จะดูเงียบสงบกว่าและหรูหรากว่า 


พอเก็บของเสร็จปุ๊บเราเดินไป Charlie Brown Cafe ค่ะ จะบอกว่าการเดินเที่ยวในย่านนี้ จะเดินง่ายกว่าย่าน Mongkok นิดนึง คือเดินแปบๆก็จำทางได้เลยค่ะ ไม่ซับซ้อนมาก งั้นขอตัดเข้ารีวิวที่ชาลีบราวคาเฟ่เลยนะคะ

เดินมาจะเจอป้ายนี้เลยค่า เท่ากับว่าเรากำลังจะเจอสนู้ปปี้กันละคะ55555












อันนี้เราขอแนะนำให้ลองชิมเลยค่ะ เป็นเครปเค้กครีมสด ด้านในสอดไส้มะม่วงค่ะ อร่อยมากก ขั้นแอดวานซ์เลยย



ต่อจากชาลีบราวคาเฟ่ เราก็เดินเล่นไปตามทางเรื่อยๆ แวะนู้นนี่นั้น แต่ก้ไม่พ้น 7-11 อีกเช่นเคย5555 งั้นขอรีวิวของใน 7-11 ต่อนิดนึงละกันนะค่ะ

ไอติมช้อคโกแลตวนิลารูปเท้าค่ะ เห็นแปลกดี เลยลองสักหน่อย ขอบอกว่าอร่อยน้าา







ขอแนะนำร้านคอของกุ้กกิ้ก เน้นแนว Disneyให้อีกที่นะคะ ร้านนี้ชื่อ Trendy Shop มีทั้งที่ Mongkok และ Tsim Sha Tsui เลยค่ะ

พนักงานที่สาขา Mongkok จะน่ารักมากๆค่ะ คอยแนะนำตลอด แถมยังมากางร่มให้เราถ่ายรูปอีก


พนักงานที่สาขา Tsim Sha Tsui จะออกโหดๆหน่อย หน้าตาไม่ยิ้มแย้ม ถามอะไรก็ไม่ค่อยเต็มใจจะตอบ แต่ของจะเยอะกว่าที่ Mongkok นะคะ


ปิดท้ายทริปวันที่3ด้วยการไป Avenue of Stars จ้า 



เราอยู่ที่นี่กันเพลินมากค่ะ ริมแม่น้ำลมเย็น อากาศหนาว เย็นสบายสุดๆ อยากจะเอาเต้นท์มากางนอนจริงๆ55555 แถวนี้ฝั่งตรงข้ามมีผับบาร์ด้วยนะคะ ด้วยความที่ย่านนี้มีคนอินเดียอยู่เยอะ ทำให้การเปิดเพลงในผับจะผสมผสานกันไป มีการเปิดเพลงอินเดียด้วยค่ะ ตอนแรกได้ยินก็รู้สึกแปลกๆนะ แบบเอะ!! นี่จะเต้นยังไงดีอะ คือออกสเตปไม่ถูกนะเอาจริง555555  แต่มันก็คือเสน่ห์อย่างนึงเลยนะเราว่า

บรรยากาศย่านTsim Sha Tsui ตอนกลางคืนค่ะ สวยงามและหรูหรามากๆ ของแบรนด์ใหญ่ๆจะอยู่ที่ย่านนี้หมดเลยน้าาา 2 ข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านแบรนด์ดังๆทั้งหลาย



มาต่อกันวันที่4  วันสุดท้ายนี้เราแพลนกันไว้ว่าจะไปนองปิงค่ะ แนะนำให้ไปเช้ามากๆนะคะเพราะคนเยอะมาก จุดขายบัตรคือชั้นบนสุดนะคะ ต้องต่อแถว หางแถวนี่อยู่ชั้นล่างสุดเลย แนะนำอีกทางคือให้ซื้อบัตรไปจากที่ไทยเลย ซื้อได้ที่ Hongkokngfanclub ถ้ามีบัตรไปเลยจะช่วยประหยัดเวลาได้เยอะเลยค่ะ จะเป็นอารมณ์คล้ายๆแบบ FastPass มีช่องทางพิเศษให้ต่อแถวและเร็วกว่าคนอื่นๆ

ส่วนกระเช้าก็จะมีให้เลือก2แบบนะคะ แบบธรรมดาคือพื้นทึบ อีกแบบคือคริสตัล พื้นจะใส
ของเราเลือกแบบธรรมดาค่ะ เพราะมันหวาดเสียว555555 






สามารถเลือกการเดินทางขึ้นไปข้างบนได้ 3แบบนะคะ 1.นั่งกระเช้า 2.รถบัส 3.เดิน(ส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่ง)
ด้านล่างจะเป็นเส้นทางสำหรับเดินขึ้นไปนะคะ ออกแนวเดินป่าเบาๆ555555


ขึ้นไปถึงแล้วจะเป็นหมู่บ้าน แล้วก็พระพุทธรูปองค์ใหญ่ยักษ์เลยค่ะ มีร้านอาหารเรียงรายเต็มไปหมด





ขอแนะนำให้ลองไอติมอันนี้เลย อร่อยมากจริงๆ ปลื้มสุด ฟินสุดด



ตู้กาชาปองเต็มไปหมดเบยยยย เหมือนเจอสวรรค์



และที่ขาดไม่ได้สำหรับการมาฮ่องกง แน่นอน! ต้องมากินทาร์ตไข่ ซึ่งเราได้ยินว่า ร้าน Taicheong Bakery คือเด็ดเรื่องทาร์ตไข่มาก ซึ่งมันเด็ดจริงๆค่ะ ชิ้นละ 5HKD ราคาโอเค ฟินไป10ชาติเศษบอกเลยยยย

ร้านนี้มีหลายสาขานะคะ แต่เราเลือกไปสาขา Mongkok East ซึ่งตัวร้านบอกเลย หาไม่ยาก แต่ด้วยความที่ไปครั้งแรก เจ้าของกระทู้เดินงงค่ะ ขาลาก คือร้านตั้งอยู่ใน MTR Mongkok East ทางออก A ไม่ต้องกวาดตาไปไหนไกล เห็น exit A มองซ้าย เจอร้านเบเกอรี่ภาษาจีนร้านนั้นแหละค่ะ ลุยยย



เห็นป้ายทางออก A ปุ๊บ เอียงคอมองซ้าย เห็นคุนลุงคนนั้นกะตัวอักษรจีนไหมคะ ใช่แล้วค่ะ ถึงแล้วววว





ครั้งนี้ก็จัดการหิ้วทาร์ตไข่กลับไทยกันเป็นการยกใหญ่ จะบอกว่าเอากลับมาเเล้วแช่ตู้เย็น พอจะกินเอาเข้าเวฟ รสชาตยังอร่อยอยู่เหมือนเดิมเลย ชอบตรงที่ตัวไข่ไม่เลี่ยน กินได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อสักนิด

ดูรีวิวการเดินทางและที่พักสุดประหยัดในกระทู้นี้ได้นะคะ >>> http://goo.gl/yRU1yE
ดูลายแทง 10 ร้านกินสุดอร่อยในฮ่องกงได้ที่นี่เลยจ้า >>> http://goo.gl/uJ3CW0

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น