เรื่องเเรกเลย จองตั๋วเครื่องบิน - เจ้าแรกที่ดูเลยคือ Air Asia ปรากฎว่าได้ราคาถูกพอสมควรเลย แต่ก็ยังพยายามหาเจ้าอื่น เผื่อมีถูกกว่านี้ แต่ก็ไม่มี สุดท้ายกลับมาตายรังที่ Air Asia เช่นเดิม 555555
ได้ราคานี้มาค่ะ ไป 2คนนะคะ แล้วก็มีค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตอีก 360฿
ส่วนที่พัก เราจองผ่าน Agoda ค่ะ ได้โรงแรม Hotel Sempurna มา เราเลือกโรงแรมธรรมดาๆนะคะ เพราะไม่เน้นนอนทั้งวัน ไปทั้งทีเราต้องลุยค่ะ 55555 จะบอกว่า ราคาคุ้มนะคะ สำหรับคนไม่คิดมาก แถมรวมอาหารเช้าอีกด้วย คิคิ😍
จัดกันไปที่ราคานี้ค่ะ 2คน/3คืน+อาหารเช้า+ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง เริ่ด!
นี่ๆ ใครจะไปมาเลเเล้วอยากพักที่นี่ เราทำวาร์ปให้ละ
เข้าไปจองได้ที่นี่เลยแจ๊ะ >>> http://goo.gl/4zfFho
ราคาตอนนี้ 480 บาท+อาหารเช้า ถูกโคตรรรรรรร
และแล้ววันเดินทางก็เริ่มขึ้น! ขาไปได้ไฟล์ท AK ซึ่งไม่มีลูกเรือไทยเลยจ้า งานนี้ก็นั่งนิ่งๆกันไป 555555
พอถึงมาเล ลงเครื่องเเล้วนั้น เกิดปวดฉี่จ้า คิดแล้วว่ากูต้องเข้าห้องน้ำที่สนามบินและโรงเเรมเท่านั้น เกรงว่าที่อื่นจะไม่สะอาด55555 จัดไปไม่รีรอ เปิดห้องน้ำสนามบินไปปุ๊บ ยืนค้างแป๊บนึงละหันไปพูดกะเพื่อนว่า "มะรึง...เป็นแบบนั่งยองฟร่ะ!" คือไม่ใช่อะไรนะ สกิลการเข้าส้วมแบบนั่งยองหายไปแล้ว ขาแข็งละค่ะ 55555 แต่ก็ต้องเข้าค่ะ เอาแง่งขาเราเข้าสู้ส้วม! แต่เขาก็จะมีอยู่ 2 ห้องนะคะ ที่เป็นแบบนั่งปกติเหมือนบ้านเรา แต่ไม่รู้ว่าเป็นของคนพิการไหม เลยแค่ถ่ายรูปมาจ้า
ขอแนะนำเรื่องสายฉีดจ้า ตอนแรกคิดว่าพัง5555 แต่เปล่าน้าา ที่มาเลสายฉีดจะเป็นเช่นนี้นะคะ
เวลาจะใช้ 1. จับสายให้มั่นค่ะ 2. เล็งให้ดีค่ะ 3. หมุนก๊อกค่ะ แล้วน้ำก็จะไหลมา แรกๆก็ไม่ชิน แต่ใช้ๆไปจะชินเองจ้า ก็ดีเหมือนกันนะคะ น้ำไม่แรงมาก ไม่เจ็บก้น 5555555 ทุกที่ที่มาเลสายจะเป็นงี้นะคะ ไอ้เราก็มีความคิดตลกๆว่า ถ้าไปรอบหน้า พกหัวฉีดไปเองจะได้ไหมนะ? 5555555
หลังจากเข้าห้องน้ำเรียบร้อยแล้วนั้น เราก็ต้องผ่านตม.จ้า คำถามก็จะปกติว่า มาอยู่กี่วัน จุดประสงค์ที่มาคืออะไร ขอดูตั๋วขากลับ ประมาณนี้จ้า ผ่านตม.มาปุ๊บ พอเดินออกมาให้สังเกตุซุ้มสีชมพูนะคะ เป็นจุดซื้อตั๋วรถไฟเข้าเมือง เขาจะมีให้เลือกระหว่าง Bus หรือ Train ส่วนตัวเราเลือกรถไฟ เพราะว่าเราถึงดึกแล้วจ้า กลัวเดินทางลำบาก ค่ารถไฟอยู่ที่ 35 RM.
ตรงที่ซื้อตั๋วรถไฟจะเป็นทางออกพอดีนะคะ จะเห็นคนต่อแถวกันเยอะๆ เราก็ไปต่อเลยจ้า
เป็นจุดทางออกที่ต้องตรวจสัมภาระอีกรอบนะคะ
พอออกมาแล้วจะเจอร้านค้าต่างๆ อย่าลืมซื้อซิมกันนะ เราใช้ของ DiGi จะเป็นร้านสีเหลืองๆ
เขาจะถามว่าเราอยู่กี่วัน ละเขาก็จะจัดการเปลี่ยนซิม เปิดการใช้บริการให้เรียบร้อย ค่าซิม 26RM จ้า
และแล้วเราก็ถึงรถไฟแล้ว ให้ลงที่สถานี KL Sentral นะคะ ใช้เวลาการเดินทางประมาณเกือบ 1ชั่วโมง เราจำเวลาเปะๆไม่ได้นะคะ มัวแต่ถ่ายรูป5555 ตอนที่ลงรถไฟนั้น ดึกแล้ว เลยทำให้ไม่สามารถต่อโมโนเรลเข้าไปบูกิต บินตังได้ งานนี้ก็ต้องพึ่งพี่แท็กจ้า โดยจะโดนเก็บเพิ่มหน้าเคาท์เตอร์ 2RM ส่วนค่าเดินทาง ตามมิตเตอร์นะคะ แต่ถ้าเดินทางดึกแบบเรา จะมีค่า Midnight ชาร์ทเพิ่มอีก 10RM คนขับจะกดชาร์ทให้เห็นจะๆเลย รวมค่าเสียหายไปโรงแรมโดยแท็กซี่ 37 RM จ้า
และเเล้วเราก็ถึงโรงแรมจ้า (ลืมถ่ายหน้าโรงแรมมาอ่า ขออภัยจ้า) เรามาดูภายในห้องกัน ห้องเล็กนะคะ แต่สามารถนอนได้ ไม่อึดอัด มีผ้าขนหนู,น้ำ 2ขวด, สบู่, แชมพู, หมวกคลุมอาบน้ำ ให้พร้อม แทบไม่ต้องเอาอะไรไปเลยและเขาจะเข้ามาทำความสะอาดห้องและเปลี่ยนผ้าขนหนู เติมน้ำให้ทุกวัน
มีปลั๊กแปลงให้ยืมใช้ด้วยนะคะ ให้ห้องละ 1 ปลั๊กค่ะ
บรรยากาศรอบข้างโรงแรมค่า
พอไปถึงโรงแรมปุ๊บ เก็บกระเป๋าปั๊บ ตะลุยค่ะ แม้จะดึกแล้วก็ตาม จำได้ว่าตอนนั้นประมาณเที่ยงคืนครึ่ง (มาเลเวลาเร็วกว่าเรา 1ชม.นะคะ) สิ่งที่เข้าไปอย่างแรกเลยคือ 7-11 จ้า 555555 อยู่ตรงข้ามโรงแรมเลย
จะบอกว่าของใน 7-11 คล้ายบ้านเรามาก บางอย่างก็เป็นของไทยเลยค่ะ เช่น เถ้าแก่น้อย เป็นต้น และด้วยความที่เราหิวจัด เลยซื้อมาม่า มา1กระป๋อง สุ่มเลือกรสชาดจากหน้าตากล่องเลยค่ะ ผลลัพท์คือ กินไม่ได้ง่ะ 5555555 เราว่ากลิ่นเครื่องเทศแรงอลังการมาก แต่เพื่อนเรานี่นางซัดโฮก หมดกระป๋อง พอถามมัน มันบอกว่าไม่อร่อย แต่หิว! ผ่างงงงง~ 55555
และ โค้กวนิลา 1 กระป๋อง อร่อยดีนะคะ
ตอนเราไปที่ 7-11 มีแก้ว Rilakkuma ขายด้วยค่ะ ก็เหมือนบ้านเรา ซื้อได้เลย แล้วก็เติมน้ำฟรีครั้งแรก
ขนมจุ๊กจิ๊กน่ารักๆก็มีค่ะ
สุดท้ายเลยมองหาร้านข้าวกิน ก็ไปเจอร้านหนึ่ง หลัง 7-11 ชื่อร้าน SB Corner มีอาหารหลากหลายมาก หนึ่งในนั้นคืออาหารไทย ต้มยำกุ้ง ต้มยำทะเล ต้มยำไก่ โรตีและเบอร์เกอร์ชนิดต่างๆ คืนนี้เราเลยเลือกเป็นเบอร์เกอร์ไก่ ขอบอกว่าอร่อยสุดๆ ฟาดเรียบ! 555555 ที่สำคัญ ราคาถูกด้วย เซทนี้เพียง 4RM เท่านั้น!!!!
พนักงานที่ร้านน่ารักมาก เดินมาคุย ถามไถ่ตลอด อัธยาศัยดี ถึงแม้เราจะฟังสำเนียงเขาไม่ค่อยออก (ออกอินตะระเดียหน่อยๆ5555) แต่เขาก็พยายามพูดซ้ำจนเราเข้าใจ น่ารักมากจริงๆ
จบทริปสั้นๆของค่ำคืนแรกไปด้วยการกินอิ่ม กลับโรงแรมซึ่งใกล้มาก แค่ข้ามถนน55555 แล้วก็นอน 😊
--- วันที่ 2 ---
เริ่มต้นเช้าวันที่ 2 ด้วยข้าวเช้าของโรงแรมค่ะ มีให้เลือกไม่เยอะนะคะ ก็จะมีข้าวผัด(อร่อยค่ะ) ไส้กรอก (แปลกนิดหน่อย) ถั่วแล้วก็มีซอสแดงๆ(ไม่ได้กิน) ขนมปังปิ้ง (อร่อยค่ะ) น้ำส้ม (ไม่ไหวเลย เหมือนน้ำเปล่าใส่กลิ่นส้มมากกว่า55555) แล้วก็พวกชา กาแฟ ค่ะ
บรรยากาศยามเช้า รอบๆโรงแรมค่ะ
วันนี้ช่วงสายๆ จนถึงเย็น เราไปเดินเที่ยวห้างแถวนี้ค่ะ เดินมาจากโรงแรมไม่ไกลมาก ประมาณ 15นาที มีร้านค้าแบรนด์ต่างๆมากมาย เราว่าบางแบรนด์เท่านั้นเนอะที่ราคาถูกกว่าไทย บางแบรนด์ก็แพงกว่าหรือพอๆกันเลย
รถนี่อย่างหรู สวยงามอลังการมาก
มาต่อกันที่ห้างนี้ค่ะ
วันนี้ฝากท้องไว้ที่ห้างนี่ กับร้าน Grandmama's (ลืมถ่ายหน้าร้านมาอีกแล้ววว😭) ร้านนี้อาหารค่อนข้างคล้ายไทยนะคะ เมนูที่เราเลือกวันนี้ คิดว่าน่าจะเป็นข้าวมันไก่ค่ะ แต่ว่าจะมีน้ำซีอิ๊วมาด้วย ไม่แห้งเหมือนบ้านเรา น้ำจิ้มมี 3แบบ มันอร่อยและลงตัวสุดๆค่ะ ชอบมาก❤️
เช่นเคย พนักงานที่ร้านน่ารักมาก ถามว่าเป็นคนไทยเหรอ เขาชอบอาหารไทยมากเลยนะ มาเที่ยวกันเหรอ? ตบท้ายด้วยพูดไทยว่า ขอบคุณครับ น่ารักจังงง😊 พอกินเสร็จก็เดินเล่น ช้อปปิ้งไปมาในห้าง ที่นี่ห้างใหญ่ดีนะคะ อยู่ติดๆกันหมดเลย เดินกันเพลินมาก
พอหัวค่ำ เราก็ไปตึกแฝดกันค่า ตอนแรกคือก่อนหน้านั้นที่นั่งรถแท็กซี่มาโรงแรม เห็นตึกแฝด ละรู้สึกว่าไม่ไกล ก็เลยตกลงกันว่าเดินไปละกันนะ เปิด Google Map เอา แรกๆก็ฟิต เดินไปชมวิวไป สักพัก เอะ ไหนว่าใกล้ไงฟร่ะ ไมยังไม่ถึงสักทีอะ? 5555555 แต่ก็สู้นะคะ เดินไปเรื่อยๆ จนเห็นด้านข้างตึกแฝดจนได้ เย้!! แต่ขาลากมากกกก55555 (เราว่ามันนั่งโมโนเรลมาได้นะ แต่เราไม่รู้ว่าสถานีอะไรง่ะ) นี่เราเดินทั้งไปและกลับ (ไม่รู้ไปฟิตมาจากไหนนน?555555)
ด้านหน้าสวยงามมากเลย แต่ๆๆ ไฟแรงไปนิดนึงง ถ่ายรูปทีต้องบังไฟกัน5555 แยงตาสุดๆ
ส่วนด้านในเป็นห้างนะคะ แต่ตอนเราไปกว่าจะเดินถึง เค้าปิดร้านกันหมดเเล้วค่ะ 55555
ถ่ายรูปกันให้หนำใจ ให้สมกับที่เดินมา55555 เสร็จแล้วก็เดินกลับโรงแรมค่ะ หมดพลัง😓
วันที่ 3 เราตั้งใจไว้ว่าจะไปช็อปปิ้งที่ตึกของเล่นค่ะ ตึกนี้ชื่อว่า Amcorp Mall นะคะ
ภาพหน้าตึกจิ๊กมาจาก Google นะคะ ตึกสีเหลืองๆ ส้มๆนั่นเลยค่ะ
ตอนแรกวาดฝันไม่เยอะมากว่าของเล่นจะหลากหลาย แต่พอเข้าไปแล้วส่วนใหญ่มีแต่ Super Hero เรานี่หงอยเลย มาตั้งไกล ไม่เจอของเล่นที่ชอบเลย😭 ที่นี่ถ้าเราจำไม่ผิด มีประมาณ 5 ชั้นนะคะ
และเเล้วโชคก็เข้าข้างให้เราได้เจอของเล่นอะไรสักอย่างจากทอยสตอร์รี่ เลยได้สอยชิ้นนี้มาชิ้นนึง
หลังจากเดินทั่วตึกเเล้ว ท้องมันก็เริ่มร้อง ก็เลยไปจัดกันที่ A&W ฝั่งตรงข้ามตึกเลยจ้า
A&W, Petaling Jaya
พอกินเสร็จปุ๊บ ฝนตกปั๊บเลย!
สุดท้ายก็ขี้เกียจรอฝนหยุด เลยรีบวิ่งฝ่าฝนขึ้นรถไฟกลับเข้าเมืองค่ะ
บรรยากาศระหว่างทาง เราว่านอกเมืองสวยงามกว่าในเมืองอีกนะ มันดูสบายตาไปหมด สถาปัตยกรรมใหม่ๆที่ไม่เคยได้เห็น
พอกลับเข้ามาในเมืองเเล้ว ก็ไม่รู้จะไปไหนดี เลยไป Kuala Lumper Tower ดีกว่า
สีสันสวยงามมากๆเลยค่ะ บอกตรงๆว่าตอนเเรกไม่คิดว่าจะแบบต้องเดินขึ้นไปอะ ไปถึงนี่แทบช็อค 5555 การจะขึ้นไปดู KL Tower สามารถขับรถขึ้นไปหรือเดินขึ้นไปก็ได้นะคะ แต่สุดท้ายเราก็เดินขึ้นไปไม่ถึง ขาไม่ไหวจะเดินเเล้ว 55555
หลังจากกลับมาจาก KL Tower ก็ตระเวนเดินเที่ยวไปเรื่อย เลยแวะกิน Texas สักหน่อย เห็นเค้าว่าอร่อย
จัดเซ็ทนี้มาค่ะ กินกัน 2 คน ตอนแรกงงมากค่ะ หามีด หาส้อมหาช้อน อะไรไม่เจอเลย
ก็เลยกวาดสายตามองไปทั้งร้าน อ๋อออออ ที่นี่เค้าใช้มือกินกัน ก็เลยเปิบกันเต็มที่ 55555
ไก่ทอด เรากินแล้วรู้สึกปกตินะคะ ไม่ได้รู้สึกว่า ว้าววว อะไรแบบนั้น
โค้ก รีฟิลได้ตลอดเวลา รออะไรล่ะค่ะ ดูดซวบๆ เติมให้ยับ! 55555
โคสลอว์และมันบด คล้ายเคเอฟซีค่ะ
ส่วนลูกกลมๆ ไม่รู้มันคืออะไรจริงๆค่ะ คล้ายๆแบบมัฟฟิน กรอบนอก นุ่มใน หอมเนย ข้างนอกจะหวานๆหน่อย อันนี้เราชอบมากกกกกกก ค่อยๆเล็มกินที่ละนิดๆ กลัวหมด 5555555
ภาพบรรยากาศช่วงกลางคืนที่มาเลจ้า
วันสุดท้ายก็เดินเก็บตามที่ต่างๆ เดินเที่ยวห้าง ซื้อของนิดๆหน่อยๆ
น่ารักมากกกกกกก อยากได้มากกกก แต่อดใจไว้ 555555
ใครเป็นแฟน Liverpool น่าจะถูกใจกับการมาเที่ยวมาเลนะคะ เพระาที่นี่ลิเวอร์เต็มไปโหม๊ดดดด
ละคือไร เราเด็กผี เดินละแอบมองบน 555555
LFC Official Store
เก็บร้านกินนู่นนี่นั่นตามรายทาง แล้วเเต่จะถูกใจ ถ้าถูกใจก็แวะเข้าร้านเลย
ปาท่องโก๋ ตัวใหญ่มากกกก รสชาตมันจะออกหวานๆหน่อย ราคาถูกมากๆด้วย ประมาณตัวละ 8-9฿
ร้านบะหมี่นี้อยู่ข้างที่พักเลยค่ะ ชื่อร้าน Tong's Roast อร่อยโคตรๆ ไม่มีเครื่องปรุง มีแต่น้ำปลาพริกมาให้ค่ะ ในบะหมี่จะมีซอสหวานๆราดมานิดหน่อย สำหรับเราไม่ได้ใส่น้ำปลาพริกเพิ่ม เราว่ามันก็ลงตัวดีนะคะ ส่วนหมูกรอบ ชิ้นหนา กรอบ แต่เค็มมากๆ ต้องจิ้มน้ำจิ้มถึงจะโอเคค่ะ ละที่เราชอบเลยคือน้ำซุปที่นี่ทุกร้านจะต้องมีลูกชิ้นลูกใหญ่ๆหรือไม่ก็หมูก้อนใหญ่ๆใส่มาให้ด้วย มันรู้สึกคุ้มดีอะ 555555
ร้านต่อมากเดินเจอหลังห้าง Fahrenheit นะคะ จะเป็นเหมือนศูนย์อาหารเล็ก เดินเรียบถนนพอเจอศูนย์อาหารเดินลงบันไดไปหน่อยนึงค่ะ ตัวศูนย์อาหารอยู่ต่ำกว่าพื้นถนนเล็กหน่อยค่ะ
นี่ๆ เป็นไง พ่อค้าที่นี่ให้ความร่วมมือในการถ่ายรูปมากๆ น่าร๊ากกกกก
เราเลือกกินเมนูที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ข้าวหมูแดงนั่นเอง แต่ที่นี่หมูจะไม่แห้งเหมือนบ้านเรานะคะ
และอีกอย่างที่จะบอกคือ ร้านอาหารส่วนใหญ่ที่มาเล (ร้านข้างนอก ที่ไม่ได้อยู่ในห้าง) จะสามารถสูบบุหรี่ที่โต๊ะได้เลย จะมีที่เขี่ยบุหรี่วางไว้ให้พร้อมค่ะ
ที่นี่จะเจอบารากุเยอะมาก หลายร้านเลยทีเดียว
จากการสำรวจมาก็ค้นพบว่าร้านนี้ขายของถูกสุดละ ของก็เยอะนะคะ ที่สำคัญบางอย่างของไทยจ้า แต่ราคาถูกกว่าซื้อที่ไทยเพราะผลิตที่มาเล งานนี้ก็โกยกลับไทยเลยค่ะ 55555
ร้าน PASAR MINI ตรงข้ามโรงแรมที่เราพักเลยค่ะ
ไมโลพร้อมดื่มขวดนี้ที่เราชอบกิน ก็มาเจอราคาถูกสุดที่ร้านนี้แหละค่ะ
คืออันเนี่ยเรารู้สึกว่ามันแปลกอะ พิซซ่าหน้าปลากรอบ แต่ถามเพื่อนก็มีแต่คนบอกว่าไม่แปลก😭
อีกหนึ่งของแปลกที่เราไม่เคยเห็น ถุงยาง Vanilla Milk Shake โอ้โหววววว Shake กันสนั่นหวั่นไหวทั้งคืนเลยข่าาา 55555555 ที่สำคัญใครรู้ตัวว่าจะต้องใช้ถุงยางบ่อยๆ ถ้าได้ไปมาเลก็ขนกลับมาค่ะ เพราะราคาถูกกว่าไทยอีกค่ะคุณขาาาา
รองเท้า VINCCI ก็ราคาดีงามพอควรเลยค่ะ บางทีก็จะแบบลดราคาต้องซื้อ 2 คู่ จะได้ราคาเป็นประมาณ 600 บาท ตกคู่ละ 300 บาท เอ๊าาา กรี๊ดดดเลยค่ะ รีบเดินเข้าร้านไปแบบไม่รู้ตัว 5555
NAKED2 ก็ราคางามพอกัน ประมาณ 1,700 บาท ซื้อได้ที่ SEPHORA เลยจ้า
ที่ขาดไม่ได้สำหรับเลยคือของเล่น ไปสอยมาได้จาก ToysRus ราคาแอบดีงาม ราคาพอๆกับที่ฮ่องกงเลย
และเเล้วก็ถึงเวลาต้องกลับไทยเเล้วจ้า ขากลับเราคิดไปคิดมา สุดท้ายก็นั่งแท็กซี่จากกัวลาลัมเปอร์ไปสนามบินเลยละกันเพราะของก็เยอะนิดนึง หลายถุง เราจำค่าแท็กซี่เปะๆไม่ค่อยได้เเล้วนะ ถ้าจำไม่ผิดประมาณไม่เกิน 80 RM นะคะ (อันนี้ไม่ชัวร์จริงๆ ลืมง่ะ)
ด้วยความที่ไปก่อนเวลา 3 ชั่วโมงได้ ก็เลยกินนู่นกินนี่ฆ่าเวลาที่สนามบินไป
ป๊อปคอร์นรสชีสสสสสสส มันก็อร่อยนะคะ แต่มันจะมีกลิ่นคล้ายๆเครื่องเทศหน่อยๆอะ
มาต่อกันที่ไอติม นี่เป็นคนที่ชอบตื่นตาตื่นใจกับไอติมต่างบ้านต่างเมืองเพราะเรามักจะไม่เคยเห็นมาก่อน
ต่อกันที่ของหนักร้านสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่อง กับร้าน Nanyang Food Garden
จะบอกว่าร้านนี้เป็นร้านแรกที่เรากินอาหารท้องถิ่นของมาเลได้ มันเป็นบะหมี่แห้ง+แกงไก่ คล้ายๆมัสมั่น อร่อยลืมมากจริงๆ ชอบมาก กลิ่นเครื่องเทศไม่แรงเกินไป มันกำลังพอดี
เช่นเคย น้ำซุปมาพร้อมลูกชิ้น 2 ลูกแหนะ แถมน้ำซุปอร่อยด้วย กลมกล่อม
โรตีแกงไก่ น้ำแกงเป็นน้ำเดียวกับที่ราดบะหมี่เลยค่ะ
แล้วเราก็ถึงเวลาที่ต้องกลับไทยจริงๆเเล้ว ไบ้บุยยยยย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น